เจมี่ คาร์ราเกอร์ ได้ออกมากล่าวโจมตีถึงผลงานของทีมลิเวอร์พูล ในช่วงครึ่งเวลาแรกเกมแชมป์เปียนลีก ที่แพ้ให้กับเรอัล มาดริด เมื่อวันอังคาร ว่าไม่สามารถยอมรับได้
ทีมหงส์แดง ตามหลังถึง 2 ประตูในช่วงครึ่งเวลาแรกของเกมนัดแรก ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เมืองหลวงแดนกระทิงดุ หลังจากทำผลงานย่ำแย่ใน 45 นาทีแรก
โดยโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ยิงประตูจุดประกายความหวังให้ในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่วินิซิอุส จูเนียร์ ก็มาทำประตูที่สองในเกมของเขา และทำให้ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเจอกับงานหนักในเกมหน้า
ทางด้าน คาร์ราเกอร์ ก็รู้สึกว่าอดีตต้นสังกัดของเขา ปล่อยให้ตัวเองทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในช่วงครึ่งแรก ซึ่งเขามองว่าเป็นหนึ่งในเกมที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่ที่คล็อปป์ คุมทีมในช่วงเดือนตุลาคม 2015
“ผลงานครึ่งแรกผมคิดว่า มันเป็นหนึ่งในเกมที่แย่ที่สุดที่ผมเห็นคล็อปป์คุมทีมในช่วง 6 ปีมานี้”เจ้าตัวกล่าวกับ CBS Sports “ไม่มีสิ่งไหนเลยที่รุดไปข้างหน้า ไม่มีความดุเดือด มอบโอกาสให้อีกฝ่ายมากมาย โชคดีที่มันแค่ 2-0”
“อะไรที่ผมเห็นในช่วงครึ่งหลัง คือสิ่งที่ผมอยากเห็นทั้ง 90 นาที มันเป็นเกมที่เกือบจะ 50-50 เรอัล มาดริด ยังคงทำได้ดีในช่วงครึ่งเวลาหลัง แต่ลิเวอร์พูล ก็ตั้งเกมได้”
“ครึ่งแรกมันไม่สามารถยอมรับได้เลย ไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงจะดีพอ พวกเราพูดเกี่ยวกับทีม และมิดฟิลด์ที่ตัวเขาเลือกลงสนาม”
“นาบี เกอิต้า ไปเล่นมิดฟิลด์และต้องกดดัน โทนี่ โครส และลูก้า โมดริช และเขาไม่ได้อยู่ใกล้เคียงกับพวกเขาเลย และในตอนจบก็ถูกถอดออกจากสนาม ก่อนที่จะหมดช่วงพักครึ่งเสียอีก”